Zapier กับการนำมาร่วมใช้กับ RPA Tools
ในกระบวนการการทำ Automation Task ต่างๆนั้นในบางขั้นตอนในการออกแบบอาจจะทำให้เกิดมากกว่า 1 Workflow หรือสามารถอธิบายเพิ่มได้ว่า หลังจากได้ Output จาก Workflow แรกแล้วให้เอา Output ที่ได้ไปทำกระบวนการอะไรต่อหรือส่งต่อให้ Robot ตัวอื่นๆทำงานต่อเนื่องจาก Robot ตัวแรก เนื่องมาจากหากออกแบบให้ต่อเนื่องใน Workflow แรกอาจจะทำให้ Workflow แรกนั้นยาวจนเกินไป กว่าจะทำให้จบใน 1 Process การทำงาน อาจจะทำให้ใช้เวลานาน เพราะฉะนั้น เราจึงสามารรถที่จะแยก ออกมาเป็น 2 Workflow ได้ ซึ่งการออกแบบแบบนี้จะทำให้สามารถใช้เวลาในการทำงานจนจบ 1 Process ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถส่งงานให้ Workflow ที่ 2 ทำงานต่อได้เลย
สามารถยากตัวอย่างที่เห็นได้อย่างบ่อยครั้ง ที่นำมาประยุกต์ใช้ได้ตัวอย่างเช่นการเชื่อมต่อการทำงานส่งการทำงานระหว่าง 2 Application ให้ทำงานต่อเนื่องกัน ซึ่งจะพบได้ทั่วไปคือ การที่เราทำการ Post บน Facebook feed บน account ของตนเองแล้ว แต่เราต้องการให้หลังจากเราโพสไปแล้วให้ทำการส่งข้อความนั้นไปโพสต่อยัง Application อื่นๆเช่น Twitter ได้อีกด้วยหรือยังสามารถที่จะให้แจ้งหรือส่ง Email ไปยัง Email ที่เราต้องการได้อีกเช่นกัน
พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมครับในการ Automate application ต่างๆให้สามารถทำงานร่วมกันและต่อเนื่องกันได้ โดยในปัจจุบันนั้นมี Application ที่ทำหน้าที่คล้ายกับเป็นตัว Connector เชื่อมต่อกันระหว่าง Application ต่างๆให้สามารถทำงานต่อเนื่องกันได้ ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 1 ในนั้นคือ Application ที่ชื่อว่า “Zapier” กันครับ
Zapier เป็น Application ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่าง Applicationต่างๆให้เข้ากันได้อาจจะทำการเรียกว่า API ของ Application นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการทำงานแบบอัตโนมัติที่เรียกว่า Zap ได้ในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ดมาก่อน เพียงแค่กำหนดหรือตั้งค่าให้ทำการ Trigger ไปยัง Application ปลายทางให้ทำงานต่อเนื่อง โดยสามารถตั้งค่าบน Zapier ให้ Zapier ตอบสนองโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้น Zapier จะจัดการส่วนที่เหลือให้คุณ โดยที่คุณไม่ต้องไปทำการเพิ่มหรือทำการอื่นๆใน Application ปลายทางแต่อย่างใด
ตัวอย่างการนำไปใช้มีอีกหลายรูปแบบ ตัวอย่างที่นิยมใช้กันได้แก่การนำไปประยุกต์ใช้กับ Dropbox
หลักการทำงานมีเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน
- ทำการเริ่มต้น Start Workflows จาก Application ที่ต้องการเช่น Gmail
- ทำการกำหนดเลือก Trigger และตั้งค่าบน Zap โดยการกำหนดว่าจะให้ทำอะไรต่อ
- กำหนด Application ที่ต้องการให้ทำงานโดยการกรอกข้อมูลลงให้ช่องว่างให้ครบ
- ทำการ Save บันทึกการตั้งค่า และกำหนด ให้ทำงานอัตโนมัติ
- ทดสอบการทำงานได้เลย
โดยที่ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Application ได้มากกว่า 1,000 Application อีกทั้งยังไม่มีหน่วงเวลาในการเชื่อมต่ออีกด้วย
สำหรับการนำมาประยุกต์ใช้กับ RPA Tools นั้น เราสามารถเรียกงานใช้ได้ผ่าน Function API ที่ได้กำหนดมาให้ใน RPA Tools ต่างๆ ยกตัวอย่าง RPA Tools อย่างเช่น “Kofax Kapow” จะมีส่วนที่สามารถให้เราเขียน API เพิ่มเพื่อจะเรียกการส่งงานต่อไปยัง Application อื่นๆที่ต้องการได้ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโปรแกรมตัวอื่นๆที่สามารถเรียก API Call Fuction ได้เช่นกัน
พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับ ในอนาคตนี้การที่เราจะทำให้ Task ต่างๆสามารถทำงานร่วมกันนั้นกำลังเป็นที่ต้องการของทุกธุรกิจในอนาคต และในส่วนของ การใช้โปแกรมอัตโนมัติ นั้นก็กำลังเป็นที่ต้องการมากเช่นกัน
สำหรับบริษัทที่ต้องกทารพัฒนา RPA หรือการทำ Automate task ต่างๆนั้นสามรารถปรึกษาเราได้ตลอดเวลาเช่นเดิมครับ